สาเหตุของโรคแอลดี
เด็กแอลดี
(LD : Learning
Disability) หรือ
เด็กที่อยู่ในภาวะความบกพร่องในการเรียนรู้ เด็กๆ
เหล่านี้จะมีสติปัญญาอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือฉลาดกว่า
แต่การเรียนรู้ในด้านใดด้านหนึ่งหรือหลายๆ ด้านจะช้ากว่าเด็กวัยเดียวกัน
โรคแอลดีเกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมอง
ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นสมองส่วนใดหรือมีความผิดปกติอย่างไร
พบว่ามักจะอยู่ในกลุ่มที่แม่มีปัญหาในระหว่างตั้งครรภ์
มีปัญหาระหว่างคลอดหรือหลังคลอด หรือสมองของเด็กมีการทำงานผิดปกติ
โดยอาจเกิดจากการติดเชื้อ อุบัติเหตุ ได้รับสารพิษ เป็นต้น
เด็กแอลดีไม่ได้เป็นปัญญาอ่อน
มีสติปัญญาปกติหรือมากกว่าปกติ และไม่ได้พิการใดๆ ทั้งสิ้น
สาเหตุจะต้องมาจากความผิดปกติของสมองเพียงอย่างเดียว
ไม่ใช่การอยู่ในวัฒนธรรมหรือสิ่งแวดล้อมที่มีลักษณะด้อยโอกาสในการดูแล หรือ
เด็กที่มีความบกพร่องด้านการเรียน
อาจเกิดจากระบบการสอนที่ไม่เหมาะสมกับพัฒนาการของเด็กตามวัย อาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความบกพร่องด้านการเรียนได้
เช่น การเร่งให้เด็กเขียนหนังสือในขณะที่พัฒนาการกล้ามเนื้อของเด็กยังไม่พร้อม
เป็นต้น จึงไม่จัดอยู่ในกลุ่มของเด็กแอลดี
โรคแอลดีเป็นโรคที่ติดตัวเด็กไปจนโต
การรักษาในวัยเด็กระยะแรกจะสามารถช่วยได้ เพราะเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้อาจประสบความสำเร็จในด้านการเรียนและด้านอื่นๆ
ได้ แต่กความบกพร่องทางการเรียนรู้เป็นเสมือนโรคที่ซ่อนเร้น
บางครั้งพบว่าเด็กไม่แสดงอาการชัดแจ้ง
แต่ควรสังเกตและตรวจสอบตั้งแต่เด็กยังเล็กอยู่ว่าเข้าข่ายเหล่านี้หรือไม่
§ พ่อแม่ คนในครอบครัว หรือญาติผู้ใหญ่
มีประวัติเป็นแอลดี
§ แม่มีอายุน้อยมาก
§ เด็กมีน้ำหนักแรกเกิดเท่าไร
น้ำหนักตัวน้อยกว่าเกณฑ์มากไหม
§ เด็กมีภาวะความบาดเจ็บทางสมองจากการคลอดก่อนหรือหลังกำหนด
§ เด็กเคยเป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบของอวัยวะ เช่น
หู ซึ่งสามารถสร้างความกระทบกระเทือนไปถึงสมองบางส่วนหรือไม่
§ เด็กอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีมลพิษ เช่น
มลพิษจากสารตะกั่ว เป็นต้น
การวินิจฉัยทางการแพทย์
ปัญหาบกพร่องด้านการเรียนรู้
แพทย์จะซักประวัติโดยละเอียดก่อน
เพื่อตรวจสอบว่าการบกพร่องด้านการเรียนรู้นี้เป็นปัญหาที่เกิดจากสภาวะแวดล้อมส่งผลต่อการเรียนหรือไม่
ปัญหาสภาวะแวดล้อมที่ส่งผลต่อการเรียน
·
มีโรคประจำตัวที่เป็นอุปสรรคต่อการเรียน
เป็นผลทำให้ต้องขาดเรียนบ่อย เรียนไม่ทันเพื่อน
§ กินยารักษาโรคบางชนิดที่มีผลทำให้ง่วง
§ ครอบครัวหย่าร้าง พ่อแม่ทะเลาะกัน ทำร้ายร่างกาย
ตบตี กระทำทารุณ
§ ครูไม่เอาใจใส่เด็ก
§ ถูกเพื่อนแกล้ง
หากพบว่าการบกพร่องด้านการเรียนรู้
ไม่ได้เกิดจากปัญหาสภาวะแวดล้อมเหล่านี้ ก็จะทำการทดสอบไอคิว ถ้าผลออกมาว่า
การอ่าน การเขียน การฟัง ไม่สัมพันธ์กับไอคิว เด็กอาจจะเป็นโรคแอลดี
และอาจมีปัญหาที่สมองของเด็กจริง
§ พ่อแม่จะต้องช่วยให้เด็กผ่านช่วงวัยเรียนไปให้ได้
เพราะเมื่อผ่านได้แล้ว เด็กไม่ได้ต้องสอบ ปัญหาต่างๆ ก็จะลดน้อยลงไปตามวัย
§ สร้างให้ช่วงวัยเรียนของเด็กมีความสุขที่สุด
มีปัญหาน้อยที่สุด ทำให้เด็กเกิดความมั่นใจ คิดว่าตนเองมีคุณค่า นับถือตัวเอง
และภาคภูมิใจในตนเอง
§ พ่อแม่ต้องให้ความสนใจและให้ความสำคัญกับเรื่องของ
อีคิว (EQ) มากกว่าผลการเรียนดีเลิศของเด็ก
§ พ่อแม่ต้องใจเย็น ใช้ความอดทนสูง
ให้ความรักและเข้าใจเด็ก ไม่ดุด่า ไม่หยิก ไม่ตี
§ พ่อแม่ต้องไม่คาดหวังมาก
สร้างให้เด็กสามารถมีชีวิตได้เองโดยลำพัง ไม่เป็นภาระของผู้อื่น
สามารถอยู่ในสังคมได้
§ ปลอดภัยจากสารพิษ
เล่นเด็กเล่นอยู่ในสถานที่ปลอดภัย ห่างไกลมลพิษ ไม่ให้อยู่ในสถานที่ๆ
มีสารตะกั่วนานเกินไป อย่างริมถนนที่รถพลุกพล่าน ควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง
§ เวลาทองของครอบครัว
คุณพ่อคุณแม่มีบทบาทสำคัญในการจัดสรรเวลาของครอบครัว มีกิจกรรมทำร่วมกัน เช่น
การเล่นบทบาทสมมติ การอ่านหนังสือ เล่านิทาน สอนให้เด็กมีทักษะการคิด การคำนวณ
ขีดเขียนวาดภาพ หรือเล่นเกมสังเกตและทายสัญลักษณ์ต่างๆ เป็นต้น
§ งานบ้านฝึกสมอง ให้เด็กช่วยทำงานบ้านง่ายๆ
ที่ส่งเสริมทักษะการใช้ความคิด และกระตุ้นพัฒนาการของสมองอย่างสม่ำเสมอ
ช่วยจัดช้อนส้อม เก็บจานชามเข้าที่ หรือช่วยจัดโต๊ะอาหาร เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น